19:46

ตลาดพลอยเมืองจันทร์ สีสันแห่งอัญมณี ๒๕๕๒

"เอ ถ้ามาเที่ยวจันทบุรี นอกจากหาดเจ้าหลาว อ่าวคุ้งกระเบน แหลมสิงห์ โอเอซิสซีเวิลด์ น้ำตกพลิ้ว แล้วจะมีที่ไหนบ้างน้าาาาา" จริง ๆ แล้วเมืองจันทร์มีสถานที่เที่ยวมากกว่าที่เราเกริ่นมาแล้วอีกมากมาย เช่น น้ำตกเขาสอยดาว น้ำตกคลองนารายณ์ อ่าวยาง และตอนนี้ก็กำลังจัดงานอัญมณีประจำปีอยู่ด้วย ที่ถนนศรีจันทร์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการค้าพลอยของเมืองจันทบุรีมาช้านาน ตั้งแต่เมื่อ ๓๐ ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน แม้ทุกวันนี้อาจจะเงียบเหงาไปบ้างเนื่องจากพิษเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจนี้ แต่อย่างว่า เรื่องเหล่านั้นก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก หากว่าตอนนี้ใครมาเที่ยวเมืองจันทร์ ก็สามารถเลือกซื้ออัญมณีได้ในราคาที่เป็นกันเอง โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกต้มว่าโดนย้อมแมว ขายของปลอมหรือเปล่า เพราะร้านทุกร้านที่มาตั้งบู้ทขายในงานนี้นั้น จะถูกสกรีนมาแล้ว จากหน่วยงานซึ่งทำการตรวจสอบข้อมูลก่อนยินยอมให้เปิดบู้ท และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตำรวจมาคอยคุ้มครอง และให้ความช่วยเหลือ หากมีปัญหาระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
งาน "ตลาดพลอยเมืองจันทร์ สีสันแห่งอัญมณี" คือชื่อของงานนี้ ได้เปิดตัวมาแล้วกว่า ๒ อาทิตย์ และคาดว่างานนี้จะจัดไปเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นปี ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ ๑๐ โมงเช้า ถึงเวลาประมาณบ่าย ๔ โมงเย็น
ส่วนอัญมณีที่นำมาขายในงานก็มีมากมายหลายชนิด เช่น ทับทิม ไพลิน มรกต ทัวร์มาลีน ฯลฯ หากใครสนใจอยากมีอัญมณีธรรมชาติมาครอบครองได้ในราคาถูก หรือแม้แต่เครื่องประดับอื่น ๆ ก็ตาม สามารถมาเยี่ยมชมเมืองจันทบุรีในช่วงเวลานี้ได้เลยนะครับ
แล้วจะได้รู้ว่าเสน่ห์อัญมณีเมืองจันทร์นั้นเกินห้ามใจจริง ๆ


วันนี้มีทัวร์มาลงด้วย ทำให้คึกคักมาขึ้นเป็นพิเศษ ภาพนี้ถ่ายช่วงเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น.

ส่วนลุงคนนี้ก็กำลังเล็งทับทิมในตู้ใหญ่ อารมณ์ประมาณว่าจะเอาเม็ดไหนดีน้าถนนถูกปิดไว้เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าจะโดนรถชนระหว่างช้อปปิ้งอยู่

20:21

มาพูดจาภาษาพลอยกันดีกว่า


บนโลกเรานี้มีกี่ภาษานะ อืม ไทย (อันนี้ถ้าไม่ขึ้นอันแรก คงโดนเม้นต์ว่าไม่รักชาติ) อังกฤษ จีนแมนดาริน ฮินดี เสปน โปรตุเกส อาหรับ เบงกาลี รัสเซีย ปัญจาบ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ฯลฯ และยังไม่นับรวมภาษาย่อย ๆ ที่ใช้กันเฉพาะกลุ่ม หรือบางพื้นที่ของโลก เช่น มาดากัสซี่ ซาวาฮีลี คำเมือง อวาธี ตูลู โคดาวา เปอร์เซีย ฯลฯ มาจนขึ้เกียจจะนับ แต่คงมีอีกภาษานึง ซึ่งมีความคลาสสิคสุด ๆ แต่ไม่ค่อยมีคนเข้าใจความหมายกัน ขนาดคนที่อยู่ในวงการยังไม่รู้เลยว่ามันแปลว่าอย่างนี้จริง ๆ เหรอ
ภาษาพลอยเป็นภาษาที่เราจะพูดถึง หากคุณต้องการจะบอกอะไรสักอย่างกับบางคนแบบคลาสสิค กิ๊บเก๋ แบบที่ว่าให้ไปตีความหมายได้พันแปด เราว่าภาษานี้ก็น่าที่จะเป็นตัวเลือกที่ใช้ได้ดีทีเดียว คงเหมือนกับถ้าเราคิดว่าเราจะบอกรักใครสักคน ถ้าต้องหาสิ่งของมาให้แทนคำพูด เกือบร้อยทั้งร้อยคงเลือก "ดอกกุหลาบ" แต่ถ้าเป็นพลอยล่ะ จะเลือกอะไร ??? งั้นผมจะขอบอกพลอยแทนความรู้สึกบางชนิดให้รู้ไว้ เพื่อเพิ่มดีกรีความโรแมนติกในแบบที่ต่างออกไปให้รู้ก็ได้ครับ ตามรายการข้างล่างนี้เลย

ความจริงใจ
พลอยชนิดที่จะบอกกับอีกฝ่ายหนึ่งว่า สิ่งที่เธอได้รับอยู่นี้แทนความจริงใจที่เรามีนะ พลอยชนิดนี้คือ พลอยไพลิน (Sapphire)

การเกิดใหม่
ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะแต่งงานใหม่ ได้งานใหม่ หรืออะไรใหม่ ๆ ก็ตาม พลอยที่แทนความจุดไฟแห่งชีวิตครั้งใหม่ก็คือ มรกต (Emerald)

จุดประกาย
หากชีวิตหมดแล้วซึ่งไฟโชนแสง (อย่างกับชื่อละคร) ลองหาพลอยชนิดนี้มาใช้ดูสิ พลอยชนิดนี้คือ ทัวร์มาลีน (Tourmaline)

ความมีสติ
ทำอะไรต้องมีสติ ถ้าไม่อยากผิดพลาด หรือจะบอกคนของคุณว่า ขับรถมีสติหน่อยนะ พลอยที่สื่อความหมายของความมีสติคือ อะเมติสต์ (Amethyst)

ความหลงใหล
คนสมัยก่อนเชื่อกันว่าพลอยชนิดนี้ถูกบรรจุไว้ด้วยไฟซึ่งไม่มีวันดับ บอกเค้าของคุณว่า ความหลงใหลของคุณก็ไม่มีวันดับเหมือนกับไฟ ด้วยพลอยทับทิม (Ruby)

ขอให้รักกันเหมือนเดิมนะ
ทำผิดมาล่ะสิ ? เราขอโทษนะ เราอยากให้รักเรายั่งยืน และมันจะไม่เกิดขึ้นอีก พลอยที่สื่อความขอโทษคือ อะควอมารีน (Aquamarine)

ความซื่อสัตย์
อยากจะบอกเค้าว่าเราซื่อสัตย์กับเค้านะ พลอยที่สื่อความหมายคือ
พลอยไพลิน (Sapphire)

อยากมีทายาท
ถ้าขอเป็นแฝด ๕ เนี่ยอาจจะยากเกินไป แต่สักแฝด ๒ หรือลูกโทนเนี่ยพอไหว(แต่ต้องมีฝืมือด้วยนะ) พลอยที่สื่อความหมายว่าอยากมีลูก คือ
มรกต (Emerald)

สันติ
ทะเลาะกันพอก่อนเถอะนะ พลอยที่สื่อความหมายแห่งสันติคือ
อะเมติสต์ (Amethyst)

จิตวิญญาณ
เธอเป็นดั่งชีวิตของเรา พลอยที่สื่อความหมายนี้คือ
พลอยไพลิน (Sapphire)

รัก
อัญมณีแห่งเทพวีนัสสื่อถึงความรักได้มากกว่าดอกกุหลาบเป็นโหล พลอยแห่งเทพวีนัส คือ
มรกต (Emerald)

แสงสว่าง
เธอจุดความสว่างให้กับชีวิตเรานะ บอกเธอสิ ด้วยอัญมณีที่สื่อความหมายอันนี้ คือ โทปาส (Topaz)

ความศักดิ์สิทธิ์
เหล่าขุนนางได้ใช้อัญมณีเหล่านี้เป็นตัวแทนความศักดิ์สิทธิ์ บอกคนที่คุณรักสิว่าเธอก็ทำให้เรามีความสุขสุด ๆ อัญมณีแทนความหมายนี้คือ
พลอยไพลิน (Sapphire)

ความหวัง
บอกคนที่เรารักว่าเรามีความหวังในสิ่งที่เราทำ ด้วยอัญมณีสื่อความหมายคือ โอปอ (Opal)

23:28

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


ตอนที่กระหม่อมกำลังง่วนใช้คอมพ์พิวเตอร์ทำงานของกระหม่อมอยู่นั้น จู่ ๆ คลื่นเสียงจากโทรทัศน์ที่บ้านของกระหม่อมก็กำลังออกอากาศอาการประชวรของพระองค์ประจำวัน ซึ่งกระหม่อมก็ติดตามข่าวของพระองค์ตลอดด้วยจิตที่อยากให้อาการประชวรของพระองค์ทุเลาโดยเร็ววัน ทุกครั้งที่ได้ข่าวจากสื่อต่าง ๆ ว่าอาการของพระองค์ทรงดีวันดีคืน กระหม่อมก็ได้แต่ดีใจอยู่ในใจ เพราะกระหม่อมคิดอยู่เสมอว่าพระองค์เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตของกระหม่อม เรื่องราวของพระองค์ต่าง ๆ ที่กระหม่อมได้รับรู้มานั้น ล้วนแล้วแต่สร้างแรงบันดาลใจให้กระหม่อมมีความพยายามที่จะทำชีวิตอันไร้เดียงสาของกระหม่อมมีสาระมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ตามรอยพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลอดยาสีพระทนต์ที่ถูกรีดจนแบบ เรื่องช่างตัดรองเท้าหน้าวัง เรื่องมูลนิธิชัยพัฒนา หลักการณ์เศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ หรือแม้แต่เรื่องพระอารมณ์ขันของพระองค์ ซึ่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้เปรียบเสมือนแสงสว่างที่ในถ้ำที่มืดสนิท หลาย ๆ ครั้งที่กระหม่อมมีปัญหา นึกอะไรไม่ออก กระหม่อมเพียงแค่จ้องมองดูรูปของพระองค์ที่ทรงใช้พระหัตถ์เช็ดพระเสโทของพระองค์เอง ทำให้กระหม่อมรู้ว่าไม่ใช่เพียงแค่กระหม่อมคนเดียวที่ทำงานหนัก ถึงแม้งานกระหม่อมจะหนัก แต่ส่วนใหญ่ก็เพื่อกระหม่อมและคนในองค์กร แต่พระองค์ทรงทรงงานหนักเพื่อผู้อื่น เพื่อพสกนิกรของพระองค์ เพราะฉนั้น ถ้ากระหม่อมท้อ จะเรียกว่า"พยายาม"เดินตามรอยพระองค์ได้อย่างไร เคยมีเพื่อนกระหม่อมพูดว่า พระองค์เคยตรัสว่าด้วยใจความที่ว่า "อย่าคิดจะเป็นใหญ่ ถ้ากลัวอุปสรรค"( กระหม่อมจำข้อความที่ถูกต้องทุกตัวอักษรไม่ได้ แต่จับใจความได้ว่าอย่างนี้ ) ทุกวันนี้ คำเหล่านี้ยังจำขึ้นใจได้ไม่รู้ลืม
ทุกก่อนนอน กระหม่อมจะสวดมนต์เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ช่วยให้พรแก่พระองค์เพื่อให้พระองค์มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง เมื่อทรงประชวรก็หายได้ในพลัน เพื่อให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของชนชาวไทยนาน ๆ อย่างน้อย ๆ ก็อยากให้ความประสงค์ของพระองค์ในเรื่องอายุขัย หากพระองค์ทรงมีตัวเลขในใจ กระหม่อมก็อยากให้เป็นอย่างนั้น
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
PostPolish

00:47

วิธีการแยกทับทิมอัดกับทับทิมธรรมชาติแบบบ้าน ๆ

สวัสดีครับ

เมื่อไม่นานมานี้ เราเพิ่งได้เรียนรู้วิธีการจำแนกพลอยทับทิม(Ruby)สังเคราะห์ หรือที่คนในวงการพลอยทั่ว ๆ ไปเรียกกันว่า พลอยอัด (synthetic stone) ออกจากพลอยทับทิมธรรมชาติ พลอยจริง ( Authentic ruby or Natural ruby)

ก่อนอื่น ต้องขอเกริ่นที่มาซะก่อน ว่าทำไมถึงต้องมีการแยกพลอยอัดและพลอยจริง (เราขอเรียกพลอยอัดก็แล้วกันนะ เพราะมันคุุ้นปาก) ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อพลอยว่าทับทิมบ้างไม่มากก็น้อย หรือ ทับทิมสยาม ซึ่งเป็นพลอยตระกูลคอรันดัม (corrundum) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในตระกูลพลอยทับทิม และทับทิมนั้นก็จัดเป็นพลอยตระกูลที่หาได้ยาก ดังนั้นแล้วมูลค่าจึงสูงไปด้วย อยากรู้ว่าสูงแค่ไหน ลองนั่งนึกดูก็ได้ว่า พลอยทับทิมพม่า ถ้าน้ำหนักประมาณ ๓ กะรัต ( ๕ กะรัต = ๑ กรัม ) ไฟพลอยสมบูรณ์ สีแดงเลือดนก ไม่มีตำหนิ ราคาในตลาดก็เริ่มตั้งแต่ ๗ หลักถ้วน และราคานี้สามารถที่จะขายได้ไม่ยากซะด้วย เพราะพลอยชนิดนี้ ถ้าสวย ๆ ล่ะก็หายากมาก ๆ ถ้าลองนั่งนึก ๆ ดู พลอยเม็ดกระจิ๊ดเดียว แต่ราคาแพงหูฉี่ ดังนั้นถึงมีคนมากมายที่เสาะหาพลอยเหล่านี้เพื่อมาป้อนให้กับตลาด แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง การหาพลอยที่มาทำได้คุณภาพเท่ากับที่ได้อ่านไปนั้น มันไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ น่ะสิ จึงมีคนกลุ่มหนึ่ง (แต่ความจริงก็ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันหรอก และไม่ได้มีแต่คนไทยด้วย) ที่ได้นำพลอยอัดซึ่งผ่านการเจียระไน หรือยังไม่ได้เจียระไนมาขายในตลาด โดนคิดเพียงแค่ว่าถ้าหากมีใครโดนเขาเหล่านั้นหลอกได้ซักครั้ง คงจะตั้งตัวได้ในทันที แต่ความจริงแล้ว การจำแนกพลอยโดยปรกติ คนที่ชำนาญเค้าเพียงแค่มองด้วยตาเปล่า โดยเอามาส่องกับไฟฉาย หรือ ส่องกล้องดูพลอย เขาก็สามารถอนุมานได้ว่าพลอยเม็ดที่เขากำลังจับอยู่นั้นเป็นพลอยธรรมชาติ หรือพลอยปลอม หรือท้ายที่สุด ถ้าไม่สามารถฟันธงจากประสบการณ์ส่วนตัวได้ ก็จะส่งเข้าแลปเพื่อยืนยันสถานะพลอยว่าเป็นของจริงหรือพลอยอัด

แต่ภูมิปัญญาที่เล่า ๆ มานั้น มันก็เป็นวิธีที่เค้าใช้กันมานมนานตาปี ซึ่งสำหรับพลอยทับทิมนั้น การจำแนกสามารถทำได้อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งวิธีนี้เราก็ไม่เคยได้เห็นจากตำราเล่มใดมาก่อน วิธีนี้ก็คือ
"การเอาพลอยทับทิมเม็ดนั้นมาส่องไฟฉาย และให้ดูผ่าน filter film" พลอยเม็ดที่เป็นพลอยอัดจะมีการเปล่งแสง (คล้าย ๆ กับสีของปากกาสะท้อนแสง แต่เป็นสีแดง) ได้มากกว่าพลอยจริง ซึ่งวิธีนี้นั้น เมื่อเราได้ทดลองทำดู โดยการนำพลอยทับทิมธรรมชาติ และทับทิมอัดซึ่งมีสีใกล้เคียงกันมากเมื่อมองด้วยตาเปล่า มาวางไว้ใกล้ ๆ กัน แล้วเราก็เอาไฟฉายไปส่องทั้งสองเม็ด และมองพลอยทั้งสองเม็ดนั้นผ่านฟิล์ม ผลปรากฏว่า พลอยอัดนั้นจะสะท้อนแสงได้มากกว่าพลอยธรรมชาติ สีของพลอยธรรมชาติ เมื่อมองผ่านฟิล์มจะดูตื้อ ๆ ทึม ๆ ไม่เปล่งซักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับทับทิมอัด

ความจริงแล้ว วิธีนี้เป็นวิธีดูพลอยที่คนไทยที่ไปซื้อพลอยดิบที่มาดากัสการ์เป็นคนสอนเรา เพราะทับทิมที่นั่นนั้นมีทั้งของธรรมชาติและของปลอม ของธรรมชาติคงไม่ต้องบอกว่าเกิดจากอะไร แต่ของปลอมเนี่ย มีทั้งคนไทยและคนอินเดียร่วมด้วยช่วยกันเอาพลอยปลอมไปเร่ขายที่นั่น เพราะที่มาดากัสการ์นั้นไม่มีศูนย์ตรวจคุณภาพพลอยที่เป็นมาตรฐานสักเท่าใดนัก ดังนั้นแล้วคนไทยที่ไปซื้อพลอยที่นั่นจริงต้องมีวิชาต่าง ๆ ติดตัวกันไปพอสมควร ไม่งั้นอาจจะขาดทุนเอาได้ง่าย ๆ และวิธีนี้ก็เป็นภูมิปัญญาโดยแท้จริง เพราะไม่มีสถาบันไหนบัญญัติวิธีการดูทับทิมอย่างนี้มาก่อน หากใครสนใจสามารถลองเอาไปทดลองทำดูได้นะครับ

สุดท้ายนี้ หากมีใครอยากแชร์ประสบการ์เกี่ยวกับอัญมณี สามารถเม้นต์ได้นะครับ ถ้าสามารถตอบได้จะตอบให้

postpolish

16:29

เปิดฤกษ์ บล็อก บล็อก

อะแฮ่ม สวัสดึครับ ใคร ๆ ก็คงเคยได้ยินว่า ความสุขของการเขียนไม่ได้อยู่ที่ว่าคนอ่านจะรู้สึกอย่างไรที่ได้อ่าน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือคนเขียนรู้สึกอย่างไรที่ได้เขียนต่างหาก ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า มันเลยต้องลองเขียนดูซักหน่อย ครั้งแรกนี้ก็คงแค่เริ่มเกริ่น ๆ นิด ๆ หน่อยเพื่อลองเทสต์ระบบดูว่าประมาณไหน อาจจะไม่ค่อยมีอะไรซักเท่าไหร่นะ